[M/V] "Let's take a break" by Nichkhun

วันอังคารที่ 19 มิถุนายน พ.ศ. 2555

มหัศจรรย์เกาะทะลุ สวรรค์ใสๆ กลางอ่าวไทย

มหัศจรรย์เกาะทะลุ สวรรค์ใสๆ กลางอ่าวไทย


         มหัศจรรย์เกาะทะลุ เสียงสายลมเกรียวกราวพัดยอดมะพร้าวแข่งกับเสียงเกลียวคลื่น คือสัมผัสแรกเมื่อมาถึงบางสะพานน้อย อำเภอแสนน่ารักแห่งประจวบคีรีขันธ์ ด้วยว่าที่นี่มีหาดทรายยาวเหยียดงามตา เรามุ่งหน้าสู่ท่าเรือบ้านมะพร้าว ลงเรือยอชร์ตสีขาวสองชั้นมุ่งหน้าฝ่าแดดลมโล้คลื่นสู่ "เกาะทะลุ" ที่มีหาดทรายขาว น้ำใสแจ๋ว ปะการังสวยไม่แพ้ฝั่งทะเลอันดามันแม้แต่น้อย
         เพียง 20 กว่านาที เรือก็เทียบท่าบนเกาะทะลุ ฟ้าใสแจ่มเป็นสีครามเข้ม แสงอาทิตย์ส่องทะลุผืนทะเลมรกตลงไปเห็นฝูงปลาตัวน้อยแหวกว่ายอยู่นับพันๆ บ่งบอกถึงความสมบูรณ์ของท้องทะเลที่ยังมีอยู่มาก หลังจากอาหารเที่ยงแบบบุฟเฟต์แสนอร่อยและนั่งพักจนข้าวเรียงเม็ดแล้วก็ได้เวลาเปลี่ยนชุด ลงเรือสปีดโบ๊ตไปดำน้ำและตกหมึก ทว่าก่อนอื่นเราต้องไปชมแลนด์มาร์กและความมหัศจรรย์ทางธรรมชาติของเกาะทะลุกันก่อน นั่นคือ "ช่องทะลุ" ซึ่งมีลักษณะเป็นโพรงขนาดใหญ่ทะลุถึงกันสองด้านแอบอยู่ใต้เพิงผาคล้ายสะพานหิน อันเกิดจากการสึกกร่อนเพราะคลื่นลมกัดเซาะอยู่นับพันๆ หมื่นๆ ปี หากเรานำแผนที่เกาะทะลุมากางดูจะเห็นว่า เกาะแห่งนี้มีรูปร่างยาวรี หัวท้ายแหลม ตั้งอยู่ในแนวเหนือ-ใต้ โดยชายฝั่งด้านตะวันตกก็คือบริเวณที่มีรีสอร์ท อ่าวงามๆ และทิวมะพร้าวร่มรื่น ผิดกับฝั่งด้านตะวันออกที่หันออกสู่ทะเลเปิดจะมีแต่ผาหินสีแดง ลงเล่นน้ำไม่ได้เลย

          ทางรีสอร์ตพาเราออกเรือเพื่อจะได้ทำความรู้จักกับเกาะทะลุมากขึ้น พบว่าแท้จริงที่นี่มี 4 อ่าวเรียงกันอยู่ด้านตะวันตกของเกาะคือ "อ่าวมุก" อ่าวเล็กๆ ที่ยาวเพียง 300 เมตร เต็มไปด้วยความสงบร่มรื่นของทิวมะพร้าวโอนเอน ผู้คนไม่พลุกพล่านเหมาะมานอนอาบแดดเงียบๆ ถัดมาคือ "อ่าวใหญ่" ที่ใหญ่สมชื่อเพราะยาวถึง 900 เมตร เป็นหาดยาวที่สุดบนเกาะทะลุ มีบริการเล่นเรือใบ พายเรือคายัค ถัดไปอีกนิดคือ "อ่าวไทรใหญ่" อันเป็นส่วนของพี่พักและ Beach Bar ที่เราไปนั่งสรวนเสเฮฮากันเมื่อคืน สุดท้ายปลายเกาะด้านใต้คือ "อ่าวเทียน" อ่าวเล็กๆ สั้นๆ มีโขดหินสีเข้มกระจายอยู่ทั่วไป หาดนี้ไม่มีที่พัก จึเงียบสงบเป็นส่วนตัวที่สุด

Fast Fact

- ฤดูกาล เกาะทะลุเที่ยวได้ตลอดปี แต่อากาศดีที่สุดช่วงเดือนกุมภาพันธ์-พฤษภาคม ท้องฟ้าใส คลื่นลมสงบดี
- การเดินทาง : ช่วงแรก เดินทางด้วยรถยนต์ เริ่มจากอำเภอเมืองประจวบฯ-อำเภอบางสะพานน้อย ระยะทาง 110 กม. ใช้ทางหลวงหมายเลข 4 จากนั้น เลี้ยวซ้ายที่ กม. 399 เข้าถนนสาย 3497 ผ่านโรงพยาบาลและที่ว่าการอำเภอบางสะพานน้อย จนถึงท่าเรือบ้านปากคลอง หรือท่าเทียบเรือบ้านมะพร้าวรีสอร์ท ซึ่งมีอาคารสำนักงานของเกาะททะลุ รีสอร์ทตั้งอยู่ ช่วงที่สอง นั่งเรือข้ามจากฝั่งไปเกาะทะลุ ถ้าไม่ได้ซื้อแพ็กเกจของเกาะทะลุ รีสอร์ทก็ต้องเหมาเรือประมงของชาวบ้าน ไปดำน้ำแบบ One-Day
- ค่าเช่าเรือ 3,000-4,000 บาท (ควรเตรียมอุปกรณ์ดำน้ำไปเอง) แต่ถ้าซื้อแพ็กเกจทัวร์ของเกาะทะลุ รีสอร์ท จะมีบริการพาไปดำน้ำด้วย
- ที่พัก : เกาะทะลุเป็นเกาะส่วนตัว มีรีสอร์ทอยู่แห่งเดียว คือ Koh Talu Island Resort สำนักงานหัวหิน โทร. 032-442-636, 08-9744-5639, 08-9744-7995 สำนักงานอำเภอบางสะพานน้อย โทร. 08-9918-3715 www.taluisland.com บนเกาะมีอาหารบริการครบสามมื้อ สำหรับผู้ที่ซื้อแพ็กเกจ 3 วัน 2 คืน ส่วนใครที่ซื้อแพ็กเกจ One-Day Trip ก็มีบริการอาหารและเครื่องดื่มอย่างครบครัน

           ที่มา : travel.sanook.com/




เกาะสมุย


          เกาะสมุยเป็นสถานที่ท่องเที่ยวที่สำคัญอันดับต้นๆ ของประเทศอีกแห่งหนึ่ง ที่มีชื่อเสียงไปทั่วโลก เพราะมีธรรมชาติอันงดงาม มีหาดทรายขาวละเอียดที่สะอาดบริสุทธิ์ อีกทั้งยังเพียบพร้อมไปด้วยสิ่งอำนวยความสะดวกทุกรูปแบบครบครัน ทั้งที่พักหลากหลายรูปแบบจำนวนมาก มีการคมนาคมที่สะดวก และมีสนามบินเป็นของตัวเอง ที่ช่วยเพิ่มศักยภาพในการรองรับนักท่องเที่ยว และเติมเต็มให้เกาะแห่งนี้เป็นแหล่งท่องเที่ยวที่สมบูรณ์แบบปัจจุบันเกาะสมุยเป็นศูนย์กลางการท่องเที่ยวของทะเลอ่าวไทยตอนใต้ ที่มีนักท่องเที่ยวทั้งชาวไทยและชาวต่างชาติหลั่งไหลไปเยี่ยมเยือนปีละหลายล้านคน
Search this site: เกาะสมุยเป็นอำเภอหนึ่งของจังหวัดราษฎร์ธานี ตั้งอยู่ทางทิศตะวันออกเฉียงเหนือของจังหวัด ห่างจากชายฝั่งสุราษฎร์ธานี โดยวัดจากท่าเรือดอนสักประมาณ 35 กิโลเมตร แต่ห่างจากตัวจังหวัดสุราษฎร์ธานีประมาณ 84 กิโลเมตร ตัวเกาะมีเนื้อที่ประมาณ 247 ตารางกิโลเมตร เป็นเกาะที่มีขนาดใหญ่เป็นอันดับ 3 ของประเทศ รองจากเกาะภูเก็ตและเกาะช้างพื้นที่ถึง 1 ใน 3 ของเกาะสมุยเป็นที่ราบ จึงสามารถสัญจรไปมาได้อย่างสะดวก และที่สำคัญคือสามารถสร้างสนามบินได้ ซึ่งอำนวยความสะดวกสบายให้กับการท่องเที่ยวเกาะสมุยได้เป็นอย่างดีสมุยมีหาดทรายธรรมชาติสวยงามที่มีชื่อเสียงหลายแห่ง เช่น หาดเฉวง หาดละไม หาดตลิ่งงาม และหาดนาเทียน และมีทรัพยากรธรรมชาติอุดมสมบูรณ์ทั้งป่าไม้และแหล่งน้ำ นอกจากนี้ยังเต็มไปด้วยเรื่องราวและศิลปวัฒนธรรมท้องถิ่น ที่สร้างเสน่ห์ให้กับเกาะแห่งนี้เป็นอย่างมาก

ทิปส์ท่องเที่ยว
  • ช่วงเวลาที่เหมาะสำหรับท่องเที่ยวเกาะสมุยคือ ช่วงเดือนมกราคม-พฤษภาคม ซึ่งเป็นช่วงคลื่นลมสงบ แต่ช่วงเวลาที่เหมาะที่สุดจริงๆ คือ เดือนกุมภาพันธ์-เมษายน เพราะเป็นช่วงที่ฝนตกน้อยที่สุด ส่วนช่วงเวลาระหว่างเดือนพฤศจิกายน-ธันวาคม เป็นช่วงฤดูมรสุม ทะเลมีคลื่นลมแรง นักท่องเที่ยวจึงควรตรวจสอบสภาพอากาศและคลื่นลมในทะเลก่อนเดินทาง

          ที่มา : thai.tourismthailand.org/home/

ตลาดน้ำสี่ภาค

              ตลาดน้ำ ๔ ภาค พัทยา สถานที่ท่องเที่ยวเชิงอนุรักษ์ทางศิลปวัฒนธรรมไทย แห่งใหม่กลางใจเมืองพัทยาและถือกำเนิดขึ้นด้วยเจตนารมณ์ของผู้บริหารที่จะให้สถานที่แห่งนี้เป็นศูนย์กลางการท่องเที่ยวเชิงอนุรักษ์วัฒนธรรม ที่จำลองวิถีชีวิตความเป็นอยู่อย่างไทยที่เรียบง่าย เรียนรู้วิถีพอเพียงดั้งเดิมที่ผูกพันกับสายน้ำตั้งแต่อดีตสืบทอดมาจนถึงปัจจุบัน รวมถึงการเรียนรู้ภูมิปัญญาชาวบ้านที่มีเสน่ห์ที่น่าหลงใหลใน ๔ ภาค ของประเทศไทย ได้แก่ ภาคเหนือ ภาคกลาง ภาคอีสาน และ ภาคใต้

              ณ ที่นี่ ตลาดน้ำ ๔ ภาค (พัทยา) นักท่องเที่ยวชาวไทยและชาวต่างชาติจะได้เพลิดเพลินไปกับทัศนียภาพอันงดงาม นั่งเรือพายชมทัศนียภาพ ๒ ฝั่งน้ำ สัมผัสกับวิถีชีวิตความเป็นอยู่ การค้าขายทางน้ำ ตระการตากับร้านค้าเรือนไทยไม้สักทั้งหลังที่สวยงาม โดดเด่นเป็นเอกลักษณ์ของตลาดน้ำ จุดเด่นของเรือนไม้สักของแต่ละภาคที่สังเกตุง่ายๆ คือ หน้าจั่วที่มี ลักษณะแตกต่างกันอาทิ เรือนภาคเหนือ มีเอกลักษณ์พิเศษคือ กาแลไม้แกะสลัก อย่างงดงาม มีจำนวนรวม ๔๓ หลัง ซุ้มลีลาวดี และซุ้มกล้วยไม้เป็นจุดพักผ่อน รวมถึงลานสล้อที่เป็นลาน”กิจกรรมการแสดงของภาคเหนือ” เรือนภาคกลางจะตกแต่งยอดจั่วที่ เรียกว่า ปั้นลม มีจำนวนรวม ๓๑ หลัง มีลานการแสดง ๒ ลาน ได้แก่ ลานเถิดเทิง และลานบางระจัน, เรือนภาคอีสาน ยอดจั่วจะป็นรูปรัศมีสีพระอาทิตย์เรืองรองจะเรียกว่า ยอดธง ประกอบด้วยเรือน ๒๒ หลัง มีลานหมอลำเป็นลานการแสดง, เรือนภาคใต้ มียอดจั่วที่เรียกว่า ปีกผีเสื้อ ประกอบด้วยเรือนจำนวน ๑๕ หลัง มีซุ้มเฟื่องฟ้า ลานเบตง และลานโนราห์ เป็นลานกิจกรรมการแสดง

             สำหรับสินค้าทั้ง ๔ ภาคจะแตกต่างกันออกไปตามวิถีชีวิตแต่ละภาค โดยภาคเหนือจะเป็นสินค้างานไม้แกะสลัก เครื่องเงิน ผ้าพื้นเมืองลวดลายงดงามวิจิตร ผ้าไหม และร่มกระดาษ สำหรับสินค้าภาคกลาง ได้แก่ เฟอร์นิเจอร์หวาย เครื่องประดับ กระเป๋าสาน ภาคอีสานโดดเด่นในกลุ่มสินค้าผ้าไหมหมัดหมี่ ผ้าไหมแพรวา เทียนหอม หมอนอิง และภาคใต้สินค้าเลื่องชื่อได้แก่ ผลิตภัณฑ์จากมะพร้าว ผ้าบาติก เรือไม้จำลอง
ปณิธานความตั้งใจเพื่อให้ตลาดน้ำ ๔ ภาค (พัทยา) แห่งนี้เป็นสถานที่ท่องเที่ยวเชิงเรียนรู้วิถีชีวิตพอเพียงที่สัมผัสได้ รวมถึงเป็นจุดศูนย์รวมของวัฒนธรรมความเป็นอยู่อย่างครอบคลุมในทุกเรื่อง ไม่ว่าจะเป็นชีวิตความเป็นอยู่ การกิน การแสดง การค้าขาย รวมทั้งงานหัตถกรรมต่างๆ ที่ล้วนบอกเล่าเรื่องราว ความเป็นมา ความเจริญรุ่งเรือง และภูมิปัญญาของบรรพบุรุษที่สมควรได้รับการดูแล และคุณค่าแก่การอนุรักษ์ให้คงอยู่ตราบนานเท่านานโครงการตลาดน้ำ ๔ ภาค (พัทยา) เป็นสถานที่ท่องเที่ยวบึงน้ำจืดที่ใหญ่ที่สุดในภาคตะวันออกแห่งเดียวที่จะคงไว้ซึ่งวิถีชีวิตคนไทยที่ยึดแนวพระราชดำริของพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ช่วยสร้างภาพลักษณ์ที่ดีให้กับเมืองพัทยา รวมถึงสร้างทัศนคติความประทับใจกับผู้มาเยือน


ที่มา : thai.tourismthailand.org/home/

ยินดีต้อนรับเข้าสู่บล็อกของดิฉัน

ยินดีต้อนรับเข้าสู่บล็อกของดิฉัน บล็อกนี้เป็นบล็อกส่วนตัวที่ใช้ในการประกอบการเรียนในรายวิชานี้